การทำงานให้ประสบความสำเร็จอย่างมีความสุข

1 ก.พ. 2024
icon-share
แชร์

ความสุขของมนุษย์ประกอบด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้

  1. มีสุขภาพกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
  2. มีสุขภาพจิตที่ดี คือมีความสุขทางใจ
  3. มีฐานะการเงินที่พอเพียงต่อการเลี้ยงชีพ
  4. มีหน้าที่การงานที่มั่นคง
  5. มีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของคนในองค์กรหรือสังคม

การจะทำงานประสบความสำเร็จอย่างมีความสุขนั้น ตัวเราจะต้องมีความพร้อม และความพึงพอใจในงานที่จะทำ และต้องทำงานนั้นด้วยใจรักและทำอย่างมีความสุข

การมีสุขภาพกายที่แข็งแรง
การจะมีสุขภาพกายที่แข็งแรงนั้น จะต้องเริ่มตั้งแต่ในวัยหนุ่มสาว โดยมีหลักการดังนี้

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง จะออกกำลังโดยวิธีใด อยู่ที่ความพึงพอใจ ความถนัด และความเหมาะสม
  • เรื่องการรับประทานอาหาร ทานให้ครบ 3 เวลา ทานอาหารให้ครบทุกหมู่ ทั้งแป้ง ไขมัน เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ดื่มนมทุกวัน ดื่มน้ำมาก ๆ ทานพออิ่ม ลดอาหารประเภทเค็มจัด หวานจัด และของมึนเมา ทานอาหารประเภทผัก ปลา ผลไม้ เป็นหลัก ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในน้ำหนักมาตรฐาน น้ำหนักมาตรฐานมีค่าเท่ากับความสูงเป็นเซนติเมตรลบด้วย 100 ในเพศชาย และลบด้วย 110 ในเพศหญิง
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วัละ 7-8 ชั่วโมง
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่สูบบุหรี่
  • ตรวจเช็คร่างกายปีละ 1 ครั้ง

การมีสุขภาพจิตที่ดี

  • ต้องไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผิดศีลธรรม ผิดกฎหมาย ผิดระเบียบวินัย
  • มีความซื่อสัตย์ ไม่คดโกง มีคุณธรรม
  • ทำจิตใจให้มีสุข มองโลกในด้านดี มีจิตใจเข้มแข็ง ร่าเริง มีความหวัง มีความภูมิใจในตัวเอง ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง ไม่มองตัวเองต่ำต้อย ไม่มีค่า
  • ไม่ทำงานหนักมากไป ต้องแบ่งเวลาให้ครอบครัว และมีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ
  • มีงานอดิเรกที่ตัวเองชอบ อย่าปล่อยเวลาว่างจนมากเกินไป
  • มีเพื่อนมาก มีกิจกรรมทางสังคม
  • ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ผู้ใกล้ชิด ต่อองค์กร และต่อสังคมประเทศชาติ
  • รู้จักรักและรู้ให้ รวมถึงการให้เกียรติผู้อื่น
  • มีจุดยืนของตนเอง มั่นคง ไม่หวั่นไหวตามกระแสหรือแรงกดดัน เป็นคนกล้าตัดสินใจ อย่าเป็นคนโลเล แต่ต้องเป็นคนยืดหยุ่น รู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
  • รู้จักปฏิบัติตัวเวลาอยู่ร่วมกับผู้อื่น ต้องรู้จักปรับตัวเข้ากับคนที่เราอยู่ด้วย แต่เราไม่สามารถให้ผู้ที่อยู่ด้วยปรับตัวเข้ากับความต้องการของเรา
  • อย่าทำงานโดยมีความรู้สึกว่าต้องเกรงใจหรือเอาอกเอาใจผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ ขอให้ทำงานโดยยึดองค์กรเป็นหลัก หรือทำสิ่งที่ดี ๆ ให้กับทุก ๆ คนโดยเทาเทียมกัน
  • อย่าคิดแต่เรื่องเงินและตำแหน่งหน้าที่การงานเพียงด้านเดียว เงินและตำแหน่งหน้าที่การงานก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่ความสุขด้านจิตใจและครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญกว่าเงินและตำแหน่งที่ได้มา ต้องได้มาจากการทำงานที่มีสุข
  • คิดทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตเพียงแต่คิดเพื่อวางแผนไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ อดีตผิดศึกษาไว้เป็นบทเรียน
  • อย่ากลัวความผิดหวังจนมากเกินไป ความผิดหวังหรือผิดพลาดเป็นเรื่องปกติของคนที่ทำงาน เอาสิ่งที่เราผิดพลาดมาศึกษา เพื่อปรับปรุงแก้ไข ไม่ให้เกิดความผิดซ้ำอีก
  • ความกังวล ความเป็นห่วงเป็นใย เป็นเรื่องดีในคนปกติต้องมีทุกคน แต่อย่าให้มาก ต้องรู้จักจนไม่วกวน ความเครียดหรือความกังวลนั้นเป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีภัยมาถึงตัว เอาเรื่องที่เรากังวลไปศึกษาเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ความกังวลนั้นหมดไป ถ้าหากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ปรึกษาบุคคลใกล้ชิดหรือผู้รู้ในเรื่องนั้น ๆ
  • การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ อย่ากลัวปัญหา อย่าหนีปัญหา อย่าเก็บปัญหา คิดว่าปัญหาเป็นเรื่องปกติของการทำงาน หน้าที่การงานยิ่งมาก ปัญหายิ่งมากตามมา การทำงานประสบความสำเร็จนั้น ต้องเป็นบุคคลที่แก้ปัญหาได้ดี เวลามีปัญหาเกิดขึ้น อย่าตื่นตระหนก มีสติ หาสาเหตุของปัญหา เอาปัญหามาวิเคราะห์ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ที่ไม่มีผลกระทบ หรือกระทบน้อยที่สุด บางปัญหาตัดสินใจไปแล้วเกิดผลกระทบก็ต้องยอมรับ เพราะว่าไม่มีทางเลือก การตัดสินใจได้ดีนั้นอยู่ที่ข้อมูลได้รับ ความรู้ความสามารถและประสบการณ์
  • อยู่ในความพอดีและพอเพียง อย่าทำเกินตัวหรือเกินความสามารถ

การบริหารจัดการไปสู่ความสำเร็จ
ผู้นำองค์กรจะนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จนั้น จะต้องเป็นคนเก่ง คนดี และคนกล้า ต้องใช้พระคุณ ไม่ใช้พระเดช การบริหารจัดการโดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
  2. มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน
  3. มีแผนปฏิบัติการไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ พร้อมกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จ
  4. วิสัยทัศน์ เป้าหมาย และแผนปฏิบัติการ บุคลากรในองค์กรต้องมีส่วนร่วมและรับทราบ
  5. ให้การสนับสนุนทีมงาน ทั้งด้านงบประมาณ กำลังคน กำลังใจ มีอำนาจให้คุณและให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาโดยความเป็นธรรม
  6. ให้ความรู้ในงานที่จะปฏิบัติ พัฒนาทีมงานเพื่อพัฒนางานที่ปฏิบัติให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น
  7. มีการประชุมติดตามประเมินผลของงานเป็นระยะ ๆ อย่างสม่ำเสมอ ลงพื้นที่ปฏิบัติจริง
  8. ให้ความเป็นธรรมกับบุคลากรในองค์กรอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกันทุก ๆ คน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก
  9. เวลามีความผิดพลาดของงานเกิดขึ้น พยายามดูที่ระบบก่อน ปรับปรุงแก้ไขที่ระบบ อย่าพยายามจ้องเอาผิดกับบุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะ ถ้าหากเป็นความผิดพลาดของตัวบุคคล ให้เรียกบุคคลผู้ทำผิดนั้นมาแนะนำให้คำปรึกษาในที่ลับ
  10. ต้องมีระบบให้คุณและให้โทษ ทำดีต้องให้รางวัล ทำผิดระเบียบวินัยต้องกล้าลงโทษ
  11. บรรยากาศที่ทำงานต้องผ่อนคลาย เป็นกันเอง ที่ทำงานต้องมีความสุข
  12. บุคลากรในองค์กรต้องมีระเบียบวินัย รู้หน้าที่ของตน ตรงต่อเวลา

(นายแพทย์ปรีชา ศตวรรษธำรง)
นายแพทย์ 10 วช. อดีตผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา
ที่ปรึกษาสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต
รองประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา
ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

บทความที่เกี่ยวข้อง

หลักการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

5 ก.ค. 2024

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ มีดังนี้การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเป็นยุทธวิธีอย่างหนึ่งที่จะส่งเสริมสุขภาพป้องกัน รักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติได้ทุกคนและทุกสภาพร่างกาย ถ

อ่านต่อ...

ปัญหาสุขภาพจิตและโรคทางจิตเวชในผู้สูงอายุ

1 ก.พ. 2024

ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนมาก และผู้สูงอายุเป็น กลุ่มประชากรที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเรื่อยมา สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของวัยผู้ สูงอายุนั้นคือการเปลี่ยนแปลง ไ

อ่านต่อ...

ท่อนหนึ่งของทำงานดี..........สร้างสุข

1 ก.พ. 2024

ตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายก่อนจากโลกนี้ไป สิ่งที่มนุษย์เราทุกผู้ทุกนามต่างหวังและปรารถนาคือ ให้ตนมีความสุขตลอดชีวิต การจะทำให้เรามีความสุขนั้น คงหนีไม่พ้นต้องทำงานและทำความดี ทำไมเราต้องทำงานด้วย ก็เ

อ่านต่อ...

ติดต่อเรา

มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ

112 ถนนสมเด็จเจ้าพระยา แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600

02-439-0357

FOLLOW US

Chat